พร้อมระบุว่า “คุณเป็นหนี้จากการใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้า เป็นเงินจำนวนหลายหมื่นบาท หากต้องการตรวจสอบให้ดำเนินการผ่านตู้เอทีเอ็มตามขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่แนะนำ” และเมื่อเหยื่อตกใจทำตาม มิจฉาชีพจะหลอกถามข้อมูลส่วนตัว เช่น หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรเครดิต บัญชีเงินฝากธนาคาร หรือบางรายอาจจะโดนหลอกว่า “คุณถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวไปทำบัตรเครดิต หรือบัตรเอทีเอ็ม ขอให้ไปทำรายการแก้ไขรหัสที่ตู้เอทีเอ็ม เพื่อป้องกันมิจฉาชีพถอนเงินจากบัญชีเงินฝาก” หากเหยื่อหลงเชื่อทำรายการตาม ก็เท่ากับว่าถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีของกลุ่มมิจฉาชีพที่เปิดบัญชีรอไว้แล้ว และเงินที่โอนไปก็จะถูกถอนออกไปทันที!! ดังนั้น หากได้รับโทรศัพท์ในลักษณะดังกล่าว ให้ระมัดระวัง “อย่าหลงเชื่อ” ให้ข้อมูลส่วนตัว หรือไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็มเด็ดขาด เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานใดจะสั่งให้มีการทำธุรกรรมผ่านตู้เอทีเอ็ม กรณีเกิดความเสียหายแล้ว ให้รีบแจ้งตำรวจหรือธนาคารที่ใกล้ที่สุด ซึ่งอาจจะสามารถอายัดบัญชีธนาคารของคนร้ายได้ทันเวลา โดยพยายามจดจำหรือรวมรวบหลักฐานต่าง ๆ ที่สำคัญ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน หากมีข้อสงสัยว่าอาจจะตกเป็นเหยื่อ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ให้โทรศัพท์สอบถามที่ Call Center ของธนาคารที่ท่านมีบัตรหรือบัญชีเงินฝากอยู่
The clincher india video National car renta Homing Developed sanctuary Cambodia Constructed
