สุดโหด!! หนุ่มปรี่ตบตี-สาดน้ำกรดสาวหน้าเละ น้ำมรณะเข้าปากทำลายอวัยวะภายในดับสยอง

 เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ก.ค. ร.ต.ท.หญิงบุษราภรณ์ เซ็งพา พนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกน้ำกรดสาดอาการสาหัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์นำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.สมนึก คำวิเศษ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ภายในห้องฉุกเฉินพบศพหญิงสาวทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วิภาวี จันทร์ขำ อายุ 37 ปี อยู่ ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ สวมกางเกงขายาวสีดำ ท่อนบนเปลือย

 จากการชันสูตรพบว่าถูกน้ำกรดสาดเข้าที่ใบหน้า หน้าอกและลำตัวจนเป็นแผลเหวอะหวะทั้งตัวและใบหน้าเสื้อผ้าชุดชั้นในขาดวิ่น โดยเฉพาะบริเวณในปากและลำคอมีร่องรอยของนำกรด ซึ่งคาดว่าน้ำกรดน่าจะผ่านเข้าไปในลำคอด้วย สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะมาจากน้ำกรดไปกัดทำลายอวัยวะภายใน

 จากการสอบสวนนางบุญส่ง ศรีผ่อง อายุ 40 ปี พี่สาวของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายเคยมีสามีและหย่าร้างกันไปแล้วหลายปี มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ประกอบอาชีพขายเครปตามโรงเรียนต่างๆ ปัจจุบันอาศัยอยู่กับลูกสาวคนเล็กอายุ 14 ปี ส่วนลูกสาวคนโตกำลังเรียนอยู่ในระดับอุดมศึกษาแห่งหนึ่งที่จังหวัดชลบุรี เมื่อไม่นานมานี้ผู้ตายได้รู้จักและคบหากับนายอุ๊ อายุประมาณ 50 ปี รูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซม.

 ต่อมานายอุ๊ได้เข้ามาอาศัยอยู่บ้านเดียวกับผู้ตาย แต่ภายหลังไม่ทราบว่าทะเลาะเรื่องอะไรกัน นายอุ๊จึงได้เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้าน จากนั้นนายอุ๊ก็พยายามตามขอคืนดีกับผู้ตาย ซึ่งบางครั้งก็พาเพื่อนผู้ชายมาพูดจาลักษณะข่มขู่ผู้ตายว่าถ้าไม่อยากมีปัญหาให้คืนดีกับนายอุ๊ แต่ผู้ตายก็ไม่ยินยอม กระทั่งก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ออกไปทำธุระในตัวเมืองเพชรบูรณ์ จากนั้นไม่นานก็มีคนโทรศัพท์แจ้งว่า ผู้ตายถูกสาดน้ำกรดและเสียชีวิตแล้วอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ซึ่งตนก็คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นนายอุ๊ เพราะนอกจากนี้แล้ว ผู้ตายไม่เคยมีเรื่องราวหรือทะเลาะกับใครเลย

 ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มโพธิ์รายหนึ่งกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนทะเลาะกันและฝ่ายหญิงถูกน้ำกรดสาด ที่บริเวณหลังธนาคารกรุงเทพฯ สาขาเพชรบูรณ์ จึงรีบไปให้การช่วยเหลือ เมื่อไปถึงพบว่าหญิงดังกล่าวเลือดไหลเต็มใบหน้า กำลังใช้น้ำล้างหน้าและบ้วนปากอยู่ แต่ไม่สามารถพูดหรือให้การใดๆ ได้ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ซึ่งแพทย์ได้พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 พ.ต.อ.สมนึก คำวิเศษ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายยืนอยู่ด้านหน้าโรงรับจำนำเพชรบูรณ์ จากนั้นได้มีชายรูปร่างท้วมสูงประมาณ 170 – 180 ซม. สวมเสื้อคอโปโลสีกรมท่าและเดินเข้ามาผู้ตายจากนั้นได้ทะเลาะและมีปากเสียงกันเสียงดัง ผู้ตายจึงวิ่งหนีข้ามถนนไปยังลานจอดรถของธนาคารกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ตรงข้าม ฝ่ายชายก็ได้วิ่งตามไปและได้ยินเสียงทะเลาะกันอีก


 กระทั่งผู้ตายวิ่งออกมาและวิ่งย้อนกลับไปทางด้านร้านแว่นตาเอื้ออาทรที่อยู่ติดกับโรงรับจำนำ เพื่อขอความช่วยเหลือในสภาพที่ใบหน้าและร่างกายมีควันเต็มไปหมด ชาวบ้านจึงช่วยกันนำน้ำมาราดและแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้วิ่งออกมาจากจุดเกิดเหตุไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ซึ่งติดเครื่องรอรับอยู่ด้านหน้าธนาคารกรุงเทพฯ โดยคนขับสวมกางเกงขายาวและเสื้อแขนยาวสีดำ สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

 จากการตรวจสอบบริเวณเกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบกระบอกพลาสติกสีขาว ซึ่งคาดว่าเป็นภาชนะที่ใส่น้ำกรดเพื่อมาสาดใส่ผู้ตายดังกล่าว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจากการตรวจสอบพบว่าน้ำกรดดังกล่าวเป็นชนิดรุนแรง สามารถกัดกระจกได้ หากถูกผิวหนังหรือเนื้อเยื่อทำให้ถูกทำลายได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าไปในช่องปากปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็จะทำลายอวัยวะภายและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้ ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องหึงหวงหรือไม่ก็ชู้สาว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว เชื่อว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็วๆ นี้
back to top