ยอมเผาแล้ว ศพผัวตายมา 2 เดือนลอยอังคารหน้าวัด เมียไม่กลัวติดโรค-เผยเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิต

จากกรณีนางสุนภา นามกร อายุ 50 ปี ชาวต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด เก็บศพนายวิเชียร สุขเจริญ อายุ 47 ปี ที่เสียชีวิตจากการป่วยเป็นวัณโรค ไว้ที่บ้านเลขที่ 37 หมู่ที่ 6 ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม นานเป็นเดือน โดยเช็ดตัว ทาแป้งเปลี่ยนเสื้อผ้า หาข้าวหาน้ำวางไว้ให้ทุกวัน กลางคืนห่มผ้าให้ทุกคืน กระทั่งพี่ชายคนตายติดต่อน้องชายไม่ได้หลายวัน เลยแจ้งตร.ช่วยมาตรวจสอบที่บ้านน้องชาย เมื่อตร.มาถึงก็พบศพแห้งเหลือแต่โครงกระดูกอยู่บนชั้น 2 โดยเมียระบุไม่นำศพไปเผาเพราะไม่อยากพลัดพรากจากคนที่รัก ขออยู่ด้วยกันตลอดไป ตร.ตรวจสอบพบป่วยตายจริง ไม่ได้ถูกฆาตกรรม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านที่เกิดเหตุในซอยหมอศรี พบว่าบ้านปิดไม่ใครอยู่ สอบถามจากร้านค้าที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตร ทราบว่าทางญาติผู้ตายและภรรยานำศพของนายวิเชียรไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดเทียนดัด ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 4 กม. และวันนี้จะทำพิธีฌาปนกิจ

 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่วัดดังกล่าว พบนางสุนภาภรรยาผู้ตาย พร้อมทั้งพี่ชายผู้ตาย พร้อมทั้งญาติๆ ราว 10 คน และผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านประมาณ 30 คนมาร่วมพิธี โดยมีพระภิกษุของวัด 4 รูปรับนิมนต์มาประกอบพิธีในเวลา 16.14 น.

 นางสุนภา กล่าวว่า ตนพบและอยู่กินกับผู้ตายได้ประมาณ 5 ปีเศษ ทั้งตนเองและสามี ต่างฝ่ายก็ผ่านชีวิตมีครอบครัวกันมาก่อนแล้ว และต่างก็เลิกรากันไป ตนมาพบกับนายวิเชียร ขณะที่นายวิเชียรทำงานเป็นรปภ. ช่วงที่พบกันใหม่ยังไม่มีอะไรพิเศษต่อกัน อยู่มาวันหนึ่งนายวิเชียรถูกรถแท็กซี่เฉี่ยวและทับที่ขาข้างขวาได้รับบาดเจ็บ ขณะนั้นนายวิเชียรพักอาศัยอยู่บ้านพักของนายจ้าง ตนจึงอาสาพานายวิเชียรมาอยู่ด้วย เพื่อช่วยดูแลอาการบาดเจ็บ ในที่สุดก็เกิดความรักจากความสงสาร เพราะนายวิเชียรเป็นคนดี พูดดีห่วงใยดูแล ซึ่งกันและกันจึงตกลงปลงใจอยู่กินฉันสามีภรรยา

 กระทั่งนายวิเชียรเสียชีวิต โดยก่อนเสียชีวิต ตนก็ดูแลปรนนิบัตินายวิเชียรจนนาทีสุดท้ายคือเช้าวันที่ 21 ก.ค.58 ราว 07.00 น. เช้าตื่นขึ้นมาพบว่า นายวิเชียรนอนนิ่งไม่ไหวติง เรียกไม่ตอบ จึงรู้ว่า นายวิเชียรสามีขาดใจไปแล้ว จึงเก็บร่างของสามีไว้ เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าทาแป้งให้ทุกๆ 2-3 วัน จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ชุดที่สวมใส่แล้วก็จะนำไปซักทุกครั้งปฏิบัติอย่างนี้เรื่อยมา กระทั่งเรื่องถูกเปิดเผย ที่ไม่ยอดเปิดเผยบอกใครก็เพราะ ไม่อยากพรากจากกัน หากต้องเอาร่างของสามีไป เผาหรือฝั่ง ตนก็จะเหงาโดดเดี่ยว ต้องอยู่คนเดียว ตลอดเวลายังคิดว่าสามียังมีชีวิตยังไม่ตาย เพียงแค่นอนป่วยอยู่เท่านั้น

 “เวลาที่อยู่กินกันกับนายวิเชียรมันสั้นไป แค่เพียง 5 ปีเขาไม่น่าอายุสั้น อยากจะอยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้เป็นสิบๆ ปี จากนี้ไปตนคงเหงา คงอีกนานไม่รู้ว่าจะทำใจได้เมื่อไร วิเชียรเป็นผู้ชายที่ดีมาก ดีที่สุดในชีวิต” นางสุนภา กล่าว

 ผู้สื่อข่าวถาม นางสุนภาถึงเรื่องโรคติดต่อที่นายวิเชียรป่วย ซึ่งอาจติดต่อกันได้ นางสุนภา กล่าวว่า ทางแพทย์นัดว่าหลังเสร็จงานศพสามี ให้ตนไปตรวจร่างกายเพื่อความปลอดภัย ซึ่งตนไม่ได้กลัวว่าจะติดเชื้อ เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยก็ดูแลเรื่องความสะอาดทั้งอาหารการกิน และรู่ว่าแม้จะติดโรคก็เป็นโรคที่รักษาให้หายขาดได้

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พิธีประชุมเพลิงศพนายวิเชียรผ่านไป ญาติๆ ของนายวิเชียร ซึ่งเดินทางทางมาจากต่างจังหวัดลงความเห็นร่วมกันว่า ให้ทำพิธีลอยอังคารของนายวิเชียรที่ท่าน้ำหน้าวัดเทียนดัดในเย็นวันเดียวกันกับวันเผาเลย เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระ

 ซึ่งต่อมาเวลาประมาณ 18.30 น. ทางญาติบางส่วนที่ยังรอเก็บกระดูก และนางสุนภาภรรยานำกระดูกของนายวิเชียรไปลอยยังท่าน้ำหน้าวัด และนัดกับญาติว่า ครบ 100 วัน จะพากันไปทำบุญที่จังหวัดบ้านเกิดของนายวิเชียรอีกครั้ง

 ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ประสานความคืบหน้าไปที่พนักงานสอบสวนท้องที่พบศพนายวิเชียร ถึงขั้นตอนการดำเนินการซึ่งทางพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า ทางญาติไม่ติดใจการตาย อีกทั้งมีประวัติการป่วยของทางแพทย์ยืนยัน รวมทั้งการตรวจที่เกิดเหตุของ ศพฐ.7 ก็ไม่พบร่องรอยผิดปกติของการตาย จึงลงความเห็นว่านายวิเชียรป่วยตาย อย่างไรก็ตาม หลังพิธีศพเสร็จเรียบร้อยจะเชิญภรรยา และญาติของผู้ตายมาสอบปากคอีกครั้งต่อไป


back to top