มอบตัวแล้ว!! ผู้ต้องหายิงอาจารย์สักยันต์ชื่อดัง-ลูกศิษย์อื้อ ปมถอยรถชนกันในร้านอาหาร

 เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 ส.ค. พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ ผกก.สภ.ห้วยยาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ถนอมศักดิ์ ยลพันธุ์ สว.สส.สภ.ห้วยยาง และชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัวนายชาญวิทย์ ฝักเล็ก ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบฯ ที่ 137/2558 ลงวันที่ 10 ส.ค.58 ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และพ.ร.บ.อาวุธปืน พบหนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ หลังเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการสอบสวน กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายขะชน เชิดชู อายุ 40 ปี หรือ อาจารย์อ้อ อาจารย์สักยันต์ชื่อดัง ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จนเสียชีวิต หน้าบ้านเลขที่ 63/3 ม.9 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา โดย นายชาญวิทย์ ได้ตั้งทนายเข้าร่วมฟังการสอบสวน และให้การปฏิเสธ  

 สำหรับคดีดังกล่าว นายขะชน เชิดชู อายุ 40 ปี หรือ อาจารย์อ้อ มีอาชีพรับสักยันต์ทั่วประเทศ และเคยเดินทางไปสักยันต์ในต่างประเทศ แต่ระยะหลังได้เดินทางกลับมาบ้านเกิด โดยเปิดสำนักสักยันต์อยู่ที่ ริมชายทะเลหน้าวัดสมุทรธราราม ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ รับสักยันต์ในช่วงกลางคืนเท่านั้น เนื่องจากมีฝีมือดี จึงมีลูกค้าชาวต่างชาติและชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวชายหาดไปใช้บริการ   ก่อนเกิดเหตุนายขะชน หรืออาจารย์อ้อ

 โดยผู้ตายได้ไปนั่งทานอาหารกับเพื่อนที่ร้านชายทะเลใกล้กับสำนักสักยันต์ของตน แต่ได้มีปากเสียงกับโต๊ะข้างเคียง และเกิดการชกต่อยกัน จนกระทั่งเจ้าของร้านได้ห้ามปราบไว้ และนายขะชน พร้อมเพื่อนได้เดินมาขึ้นรถยนต์เก๋งของตัวเองเพื่อขับกลับบ้าน แต่ได้ถอยรถไปชนรถยนต์คู่กรณี จึงถูกคู่อริตามไปถึงบ้านและเกิดชุลมุน ทำให้นายขะชน ถูกกระสุนปืนจำนวน 4 นัด จนเสียชีวิต  

 ต่อมาศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้อนุมัติหมายจับข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น จำนวน 3 คนคือ 1.นายทเนศร์ ชูศรี อายุ 24 ปี 2.นายเฉลิมชัย ฝักเล็ก อายุ 27 ปี และ 3.นายศักดิ์ชัย อินขลิบ อายุ 38 ปี ส่วนผู้ต้องหาคนที่ 4 นายชาญวิทย์ ฝักเล็ก อายุ 36 ปี ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว , และยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน

 โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว นายทเนศร์ , นายศักดิ์ชัย และนายเฉลิมชัย ซึ่งเป็นน้องชายของนายชาญวิทย์ ไว้ได้ คุมตัวมาทำการสอบสวน แต่ให้การภาคเสธ ส่วนนายชาญวิทย์ ผู้ต้องหาคนสำคัญที่โดนข้อกล่าวหาหนักสุดได้หลบหนีไป จนกระทั่งได้เข้ามอบตัวและได้ให้การปฏิเสธ


back to top