ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่กำลังก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องจักรกลสูง 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด บริเวณชั้นล่างพบศพ น.ส.มล ศรีลาบุตร อายุ 31 ปี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีชมพู นุ่งกางเกงขายาวสีดำลายจุดสีขาว ใส่รองเท้าแตะแบบหนีบสีดำ มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมที่หน้าอกและลำตัว รวม 3 แห่ง ใกล้กันพบคราบเลือดไหลนองเป็นทางยาว นอกจากนี้ บริเวณป่าหญ้าใกล้ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ติดพ่วงหน้าดัดแปลงเป็นรถซาเล้งจอดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.ศิริราช เพื่อดำเนินการต่อไป
จากการสอบสวน นายทองภูมิ สะออม อายุ 43 ปี รปภ. ให้การว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มคนงานก่อสร้างตั้งวงนั่งดื่มสุรากันประมาณ 6 คนภายในพื้นที่ก่อสร้าง โดยมีผู้ตายร่วมอยู่ด้วย กระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. มีชายสูงวัยที่อยู่อาการมึนเมา ขับรถซาเล้งมาจอดบริเวณด้านหน้า จากนั้นเดินเข้ามาชวนผู้ตายกลับ และพากันเดินกอดคอเดินออกมาบริเวณด้านหน้าของโรงงาน แต่ไม่ได้มีปากเสียงกันแต่อย่างใด จากนั้นคนร้ายชักอาวุธมีดยาว ประมาณ 9 นิ้ว ที่เหน็บอยู่ข้างหลังแทงเข้าที่ลำตัวผู้ตาย 2-3 ครั้ง จนผู้ตายต้องวิ่งหนีเข้ามาในพื้นที่ก่อสร้าง และล้มลงบริเวณดังกล่าว ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งเข้าป่าฝั่งตรงข้ามโรงงานหายไป
ด้าน นายประเสริฐ ฤทธิรงค์ อายุ 34 ปี เพื่อนผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ตนรู้จักกับผู้ตายมากว่า 10 ปี โดยผู้ตายกับนายทุม สีระ อายุ 51 ปี สามีเพิ่งคบหากันได้แค่ 4 เดือน ทั้งคู่มีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้างอยู่ที่แคมป์ก่อสร้างภายในซอยแสมดำ 13 โดยผู้ตายมักจะมาดื่มสุรากับกลุ่มเพื่อนที่แคมป์แห่งนี้เป็นประจำ ก่อนหน้านี้ผู้ตายเพิ่งเลิกรากับสามีเก่าที่มีอาชีพขับซาเล้งอยู่ละแวกนี้ ส่วนนายทุม สามีใหม่มีอายุมากกว่า และขี้หึงจนมีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ แต่ไม่คาดคิดจะมาเกิดเหตุสลดเช่นนี้
ร.ต.ท.เริงศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายคือนายทุม สีระ อายุ 51 ปี สามีใหม่ ที่เกิดความหึงหวงผู้ตายเกรงว่าจะกลับไปคบกับสามีเก่าจึงลงมือก่อเหตุ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ต้องทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
